top of page

It's not just a piece of cake: เค้กวันเกิด แสงและควันเทียนแห่งปรารถนา (ตอนที่ ๒)

  • Tae
  • Sep 4, 2015
  • 1 min read

Happy Birthday ♬

Happy Birthday ...

Happy ...

Birthday ... ♩

To .. o .. o o

Youuuuuuu. ♪♫

เมื่อเพลงจบเด็กน้อยคนหนึ่งหลับตาพริ้มพร้อมวอนขอพรบางอย่างในวันเกิดเล็กๆของตัวเอง

เสร็จแล้วก็เป่าลมเบาเบาโดยหอบเอาความปรารถนาในใจให้พัดพาไป ณ ที่ใดที่หนึ่ง

สำหรับเรื่องเค้กเค้ก ที่เพิ่งเขียนจบไปก่อนหน้านี้ เต้ก็ได้เล่าที่มาที่ไปของเจ้าเค้กแต่งงานให้เพื่อนๆเก็บเอาไว้อินเวลาที่จะจัดปาร์ตี้แต่งงานของตัวเอง วันนี้เต้เลยอยากจะมาแบ่งปัน เรื่องเค้กวันเกิดบ้างว่าจริงๆแล้วมันเริ่มมาได้ไงแล้วทำไมถึงต้องมีเทียน? แล้วทำไมต้องเป่า?

เรื่องการเป่าเค้กและแสงเทียน มีหลายคนสันนิษฐานว่าน่าจะเริ่มมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ คือย้อนกลับไปเป็นพันๆปี ในยุคที่มนุษย์เราบูชาเทพเจ้าต่างๆ อย่างสมัยกรีกโบราณ ในคืนจันทร์เพ็ญ ประชาชนจะเข้าไปทำการสวดภาวนาในโบสถ์ของเทพ Artemis เทพแห่งการล่าสัตว์และดวงจันทร์(เธอเป็นน้องสาวฝาแฝดของเทพอพอลโลสุดหล่อ ที่เป็นสัญลักษณ์ของดวงอาทิตย์) ตอนนั้นการทำพิธีบูชา เราใช้เทียนปักลงบนขนมเค้กเพื่อแทนแสงแห่งด้วยจันทร์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องข้างต้นก็ยังไม่หลักฐานระบุแน่ชัดนะคะ เพราะจริงๆเทียนน่าจะเกิดหลังจากยุคของกรีก

แต่เนื้อหาสำคัญของการเป่าเทียน นั่นก็คือควันที่เกิดขึ้นจากการเป่าเทียน เพราะควันคือสิ่งที่เชื่อมโยงระหว่างเทพและมนุษย์ คำพรใดๆที่เราขอไปจะติดตามอยู่ในควัน และลอยล่องไปสู่เทพที่อยู่ในฟ้าและอากาศ นั่นละ!เราเลยต้องอธิษฐานผ่านเทียนและดับไฟลงเพื่อส่งพรขอไปสู่ท้องฟ้า(ชอบม่ะ ดูยิ่งใหญ่ และเต็มไปด้วยความหวัง)

ส่วนตัวเค้กมันก็มีการเริ่มทำมาตั้งแต่ยุคโรมัน ก็ยังคงคอนเซ็ปท์ขนมหวานที่ทำจากแป้งผสมถั่วยีสต์และใช้น้ำผึ้งให้ความหวานแล้วก็ค่อยๆเกิดการปรับไปปรับมาตามยุคสมัยของมัน

ส่วนจุดเริ่มของการจัดงานวันเกิด คือที่มีหลักฐานเลยก็คือในช่วงศตวรรษที่ 18 ที่เยอรมนีมีพิธีการเฉลิมฉลองวันเกิดให้กับเด็กๆที่เรียกกันว่า Kinderfest(Kinder ในภาษาเยอรมัน = เด็ก) โดยแต่ก่อนเค้าเชื่อกันว่าในวันเกิดครบรอบแต่ละปีจะมีพวกวิญญาณชั่วร้ายแวะเวียนมาทำร้ายเจ้าของวันเกิด โดยเป้าหมายของพวกมันคือจิตวิญญาณอันเดียงสาของเด็กๆ เค้าก็เลยทำการปกป้องเด็กๆที่เป็นเจ้าของวันเกิดนั้นๆ โดยการให้คนมาล้อม มานั่งอยู่รวมๆกัน โดยพวกผู้ใหญ่ก็ส่งเสียงดังๆ (น่าจะหมายถึงการร้องเพลงหรือไม่ก็อวยพร) เพื่อทำให้วิญญาณชั่วร้ายเล่านั้นไม่กล้ามาทำร้ายเด็กเจ้าของวันเกิด ส่วนเรื่องที่เรียกงานวันเกิดกันจนติดปากว่า Happy Birthday นั้น ก็คงเพราะเพลงที่แต่งขึ้น แล้วก็ร้องตามๆกันมา ตามแถบประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษจ๊ะ

หมดละล่ะ เรื่องเค้ก ขนมหวานๆ ที่มีเนื้อหาดีอยู่ในความหวานละมุนของตัวมัน เค้กอาจดูไร้ค่าในสังคมเร่งรีบยุคใหม่ๆ แต่จริงๆแล้วการได้รับเค้กแล้วเป่ามันในวันเกิด ไม่มีใครหรอกที่จะปฏิเสธความรู้สึกพิเศษในวินาทีที่ ได้เห็นแสงเทียนสีนวลปักอยู่บนเค้กน่ารักๆ เชื่อว่าต่อให้เป็นป๋ารุ่นใหญ่หน้าโหด ยังต้องเผลอยิ้มเล็กๆ เวลาที่มีคนเอาเค้กวันเกิดถือมาให้เป่า เพราะช่วงที่แสงเทียนคลอกับเพลงบวกรวมไปกับคนที่มาล้อมรอบยินดีกับเรามันเป็นเวลาที่เต็มไปด้วยความหวัง และความอบอุ่น หัวใจฟูๆของเราก็จะเป่าเทียนเบาๆ โดยขอให้พรที่ขอแบบเงียบๆไปสู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง และก็รอวันมันเป็นจริง

 
 
 

Comments


bottom of page