เรื่องของเราและบทเพลงเบาเบาแห่งความทรงจำ: wedding playlist
- Tae Jeeranant
- Apr 24, 2018
- 1 min read

“และนี่คือเสียง เสียงเพลงที่มาจากใจ” บทเพลง อัลบั้มโปรดในวัยประถมปลายคลอเสียงขับร้องสุดไพเราะ หนึ่งในเพลงโปรดที่คิดไว้ตลอดว่าหากชอบใครสักคน คงต้องร้องเพลงเพลงนี้บอกความในใจออกไป ฉันยังจำวันที่อัดเทปใส่เสียงร้องของตัวเองยื่นมันส่งให้เธอได้อยู่เลย เพลง จะเก็บเธออยู่ในใจเสมอ ของคุณบอยโกสิยพงษ์ 1 ในเพลย์ลิสต์เพลงในวันแต่งงานของเรา ทำให้บรรยากาศการคุยเกี่ยวกับการวางแผนเรื่องงานแต่งงานระหว่างฉันกับเธอสนุกขึ้น เราเริ่มชวนกันฟังเพลงที่มีความทรงจำต่างๆร่วมกัน การสนทนาวางแผนแต่งงานในวันและคืนเหล่านั้นสนุกราวกับว่าเรื่องเก่าๆที่เล่าผ่านเพลงมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานและเราสนทนากันไปด้วยรอยยิ้มระหว่างกันและกัน ... ท่ามกลางรายการที่ต้องตัดสินใจวางแผนจัดงานแต่งงานของตัวเอง การเลือกเพลย์ลิสต์งานแต่งงานนี่แหละที่เต้มักจะแนะนำให้คู่รักหลายๆคู่ หันไปให้ความสนใจ และสนุกไปกับการได้เลือกเพลงที่จะเปิดในวันงานแต่งงานด้วยกัน แม้อาจจะเป็นไอเท็มในงานแต่งงานที่ดูไม่สลักสำคัญในสายตาใครหลายๆคน แต่จริงๆแล้วสำหรับเต้และทีมงานสีนวลตา เพลงมีบทบาทสร้างบรรยากาศ หล่อหลอมความเป็นธีมงานแต่งงานที่บอกเรื่องราวของแต่ละคู่ออกมาได้ และที่สำคัญยังสะท้อนความมีรสนิยมของตัวเจ้าภาพว่ามีความรักความชอบในสิ่งไหนอย่างไรได้ไม่มากก็น้อย ... “Come on out and dance, If you get a chance, ...” Back Down South โดย Kings of Leon / Back Down South by King of Leon นอกจากเพลงข้างบน การเล่าถึงความรักในเพลง Yellow(by Coldplay) และ Chasing Car(by Snow Patrol) ก็เป็นเพลงสากลชุดหลักๆที่เต้จดบันทึกไว้เป็นเพลย์ลิสต์เพลงงานแต่งงานของตนเอง ตอนแรกๆ ที่ยังคิดหน้าตาของงานแต่งงานไม่ออกเลย (เนื่องจากเป็นคนที่ไปงานแต่งงานน้อยมากๆ ตอนนั้น และไม่เคยจำงานแต่งงานได้ว่ามันมีอะไรบ้างนอกจากชุดบ่าวสาวและของกิน) ครั้นเมื่อได้ลองฟังเพลงเหล่านั้นก็นึกจินตนาการภาพงานแต่งงานประกอบบทเพลงที่ว่า ออกมาเป็นฉากๆ เต้เริ่มเห็นเค้าโครง สี และอารมณ์ของพื้นที่ในงาน นึกภาพออกมาได้ว่าควรละมุน ล้อไปกับเพลงข้างต้น

จากการชวนกันเลือกเพลง ในบทสนทนาสบายๆระหว่างคู่รักมาสู่ภาพลักษณ์ หน้าตาของงานแต่งงาน ดังนั้น โดยส่วนตัวเต้เชื่อมากๆ ว่าหากเรายังคิดอะไรไม่ออกเลยเรื่องงานแต่งงาน การชวนไปฟังเพลงด้วยกันเบาๆในร้านอาหาร บรรยากาศดีดีซักร้าน แล้วคุยกัน มันอาจจะมอบแรงบันดาลใจไม่รู้จบให้เพื่อนๆ เป็นจุดเริ่มต้นในการวางแผนการแต่งงานที่ดีได้อย่างคาดไม่ถึงก็ได้ เพลงที่ถูกเลือกและถูกเปิดประกอบในความทรงจำอย่างวันแต่งงานของเรา มันจะถูกบันทึกคู่กับความทรงจำครั้งหนึ่งในความคิดถึงของเราเสมอ เช่น เมื่อเพลง...นี้ขึ้นมา เราจะจำภาพตอนที่เราจับมือตัดเค้กด้วยกันอย่างแม่นยำ หรือเธอที่ดีดกีตาร์และร้องเพลงนี้เซอร์ไพรส์กันวันนั้น เป็นต้น ถ้าเป็นเช่นนั้น ถ้าเป็นเพลงที่เราจะคิดถึง เราก็ควรจะได้มีโอกาสเลือกมันด้วยกันเนอะ คุณคิดว่าอย่างนั้นมั้ย? นอกจากนี้เพลงช่วยจัดลำดับงานให้ไหลลื่น และเป็นไปตามแบบแผนที่คู่รักแต่ละคู่ตั้งอกตั้งใจจัดขึ้นมาได้ด้วยนะ เช่น บางคู่อยากให้บรรยากาศในงานเริ่มต้นแบบสวยๆซึ้งๆ แล้วค่อยสนุกขึ้น เพิ่มขึ้นจนถึงสุดขีดในช่วงปลาย ก็ควรจะจัดเพลงหวานจังหวะช้าเนิบในช่วงแรกๆ แล้วพอจะตัดเค้กก็เลิกใช้เพลงช้า แต่เป็นเพลงที่เริ่มมีจังหวะพอโยกเบาๆได้ แล้วด้นต่อด้วยเพลงตื่นเต้นจนเต้นได้ในตอนโยนดอกไม้ เพื่อที่คนที่ลุกขึ้นยืนแล้วจะได้วอร์มร่างกายพร้อม จัดหนักจัดเต็มในช่วงหลังจบพิธี นั่นละ การจัดเพลย์ลิสต์ที่คัดสรรอย่างดีในแต่ละลำดับพิธีจึงมีความสำคัญ เพื่อให้จังหวะของงานลื่นไหล ไม่ขัด ไม่เกิน แต่สำหรับบางที หรือหลายทีเลยก็ว่าได้ การเลือกเพลย์ลิสต์ในงานแต่งงานเป็นไอเท็มที่ถูกปล่อยปละละเลย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนเปิดเพลงในโรงแรม หรือไม่ก็หน้าที่ของวงดนตรีที่จ้างไป หรือไม่ก็ลอกงานของเพื่อนที่แต่งงานก่อนหน้ามา ซึ่งสำหรับเต้เอง ที่เห็นพลังงานดีดีในความสัมพันธ์ของคู่รัก คงเสียดายแทนบ่าวสาวที่จะพลาดโอกาสได้ทบทวนเรื่องราวระหว่างกันและกัน งานแต่งงานถ้าหากเป็นการทำเพื่อให้มันจบๆ ให้ผ่านๆไปเพียงเพราะต้องแต่งตามที่ใครๆเค้าบอกให้ทำ ไม่งั้นผิดผี บลา บลาบลา... คุณคงอาจจะไม่ผิดผีตามคำว่า แต่คุณก็อาจจะตายไปเป็นผีที่เฝ้าเสียดาย ที่ไม่เฉลิมฉลองความทรงจำดีดีร่วมกับคนรักให้สมกับที่ครั้งนึงได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้พบกับความรัก ได้ถูกรัก และได้รู้จักให้ รู้จักแชร์อะไรดีดีให้ผู้อื่นที่รักคุณ งานแต่งงานถ้าจะทำเพื่อเฉลิมฉลองความรักที่คุณมีต่อคู่รักของคุณแล้ว อย่าเพียงทำเพื่อผ่านเพื่อจบไป ลองใช้เวลา ลองสร้างทัศนคติสบายๆ เกี่ยวกับคำว่างานแต่งงาน แล้วชวนคนรักของคุณคุยกัน เริ่มที่เปิดเพลงที่คุณชอบฟัง หรือเพลงที่มักได้ยินมันแว่วมาในหัวตอนที่คุณเริ่มรู้ตัวว่าคุณแอบมีใจให้คนรักของคุณก็ได้นะ เปิดเพลงคลอเบาๆช้าๆ ลองมองหน้าเขาหรือเธอที่ดวงตาอย่างจริงใจ สบายๆ แล้วเอ่ยไปว่า “มันเริ่มจากตรงไหนนะ ครั้งแรกที่เราพบกัน ... “ ขอให้ทุกความสัมพันธ์ของความรัก จงแบ่งปันความรักความเมตตาตลอดจนพลังงานดีดี ส่งต่อให้กับบรรยากาศและสิ่งรอบกาย
Comments